autodoorservice.com

เปรียบเทียบเครื่องกั้นทางเดินทั้ง 3 แบบ Turnstile แบบไหนใช่สำหรับคุณ?

เปรียบเทียบเครื่องกั้นทางเดินทั้ง 3 แบบ Turnstile แบบไหนใช่สำหรับคุณ?

เทคโนโลยีด้านการรักษาความปลอดภัยมีบทบาทสำคัญกับทุกองค์กร โดยเฉพาะในด้านการควบคุมการเข้า-ออกของบุคคล เครื่องกั้นทางเดิน หรือ Turnstile เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ยอดนิยมที่องค์กรหลากหลายประเภทเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน สถานีรถไฟฟ้า หรือแม้แต่ห้องน้ำสาธารณะ

Turnstile ไม่ได้มีเพียงแบบเดียว แต่มีให้เลือกหลากหลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและความเหมาะสมของพื้นที่ โดยบทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึก เปรียบเทียบเครื่องกั้นทางเดิน 3 ประเภทหลัก ได้แก่ แบบสามขา (Tripod), แบบบานสวิง (Swing Gate), และแบบปีกผีเสื้อ (Flap Barrier) พร้อมเปรียบเทียบเครื่องกั้นทางเดินข้อดี ข้อควรพิจารณา และคำแนะนำในการเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับองค์กรของคุณที่สุด

เครื่องกั้นทางเดินทั้ง 3 แบบ

1. เครื่องกั้นทางเดินแบบสามขา

ลักษณะเพิ่มเติม:

Tripod Turnstile เป็นเครื่องกั้นแบบคลาสสิก มีดีไซน์ที่เรียบง่าย ใช้กลไกการหมุนของก้านเหล็กในการควบคุมการผ่านเข้าออก ตัวเครื่องสามารถติดตั้งแบบ Manual หรือ Motorized ได้ (ควบคุมด้วยมือหรือระบบไฟฟ้า) และสามารถตั้งค่าการทำงานให้ผ่านได้เฉพาะผู้มีสิทธิเท่านั้น เช่น สแกนบัตร RFID หรือสแกนลายนิ้วมือ

จุดเด่นเพิ่มเติม:

  • ติดตั้งง่าย และไม่ซับซ้อน เหมาะกับสถานที่ที่มีการใช้งานพื้นฐาน
  • ดูแลรักษาง่าย อะไหล่ไม่ซับซ้อน จึงมีค่าใช้จ่ายการดูแลต่ำ
  • สามารถนับจำนวนคนเข้าออกได้ โดยเชื่อมต่อกับระบบ People Counter

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:

  • ในกรณีฉุกเฉิน (เช่น ไฟไหม้หรือระบบไฟฟ้าดับ) ต้องมีระบบปลดล็อกฉุกเฉินให้แขนเปิดอัตโนมัติ หรือระบบให้แขนพับได้เพื่อความปลอดภัย

2. เครื่องกั้นทางเดินแบบบานสวิง

ลักษณะเพิ่มเติม:

Swing Gate ใช้หลักการทำงานด้วยเซนเซอร์ควบคุมการเปิด-ปิดแบบอัตโนมัติ โดยตัวบานประตูสามารถทำจากกระจกนิรภัย หรือวัสดุทึบแข็งแรง แล้วแต่ความต้องการ สามารถออกแบบให้มีรูปทรงสวยงามเข้ากับสถาปัตยกรรมของสถานที่ได้

จุดเด่นเพิ่มเติม:

  • รองรับการเข้าออกของคนหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ใช้วีลแชร์
  • เหมาะกับพื้นที่กว้าง เช่น ล็อบบี้สำนักงานที่มีทางเดินกว้าง ๆ และต้องการความสง่างาม

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:

  • อาจต้องมีการ ซ่อมบำรุงระบบเซนเซอร์ และบานประตูอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาความแม่นยำ
  • อาจต้องใช้ พื้นที่ข้างทางมากขึ้น เพื่อให้บานประตูสามารถเปิดได้อย่างเต็มที่

3. เครื่องกั้นทางเดินแบบปีกผีเสื้อ

ลักษณะเพิ่มเติม:

Flap Barrier เป็นเครื่องกั้นที่ตอบโจทย์ความปลอดภัยสูงและความหรูหราไปพร้อมกัน ตัวแผ่นกั้นลักษณะคล้าย “ปีก” ที่เปิดออกในแนวนอน ทำงานด้วยระบบมอเตอร์และเซนเซอร์ที่แม่นยำ จึงเหมาะกับสถานที่ที่ต้องการควบคุมคนจำนวนมากอย่างรวดเร็ว

จุดเด่นเพิ่มเติม:

  • มีความเร็วในการเปิด-ปิดสูง เหมาะกับสถานที่ที่มีการสัญจรหนาแน่น
  • ดีไซน์สวยทันสมัย ยกระดับภาพลักษณ์องค์กร
  • ระบบเซนเซอร์หลายจุด ช่วยตรวจจับบุคคลที่ผ่านเข้า-ออกผิดปกติได้ เช่น ลักลอบผ่าน

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:

  • ราคาสูงกว่าเครื่องกั้นแบบอื่น ๆ ทั้งค่าตัวเครื่องและการติดตั้ง
  • หากเกิดปัญหาอุปกรณ์ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดำเนินการเท่านั้น เนื่องจากเป็นระบบที่มีความซับซ้อน

ตารางเปรียบเทียบเครื่องกั้นทางเดิน 3 ประเภท

คุณสมบัติ Tripod Turnstile (3 ขา) Swing Turnstile (บานสวิง) Flap Turnstile (ปีกผีเสื้อ)
1. รูปแบบการกั้น หมุนแขนเหล็ก 3 ขา บานประตูสวิงอัตโนมัติ ปีกเปิด-ปิดอัตโนมัติแบบพับ
2.การใช้งานร่วมกับระบบ Access Control รองรับทุกระบบ รองรับทุกระบบ รองรับทุกระบบ
3. ความปลอดภัย พื้นฐาน ปานกลาง สูง (มีระบบตรวจจับหลายจุด)
4. การเข้าถึงผู้ใช้พิเศษ ไม่เหมาะกับรถเข็น เหมาะสม เหมาะสมมาก (มีช่องกว้าง)
5. ความเหมาะสมของสถานที่ พื้นที่จำกัด, คนผ่านมาก สถานที่หรูหรา, ทางการ สถานีรถไฟ, ล็อบบี้, พื้นที่เปิดโล่ง
6. ความคงทนแข็งแรง แข็งแรงมาก ปานกลาง ปานกลาง-สูง
7. ความง่ายในการบำรุงรักษา ง่าย (ระบบกลไกพื้นฐาน) ปานกลาง อาจต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
8. ระบบควบคุมที่รองรับ RFID, สแกนนิ้ว, บัตร, หยอดเหรียญ RFID, QR, สแกนหน้า RFID, QR, สแกนหน้า, บัตร
เลือกเครื่องกั้นทางเดินแบบไหนดี

เลือกเครื่องกั้นทางเดินแบบไหนดี?

การเลือกเครื่องกั้นทางเดินที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณา เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด

  1. จำนวนคนที่ต้องผ่านเข้า-ออกต่อวัน
    หากสถานที่มีจำนวนคนเข้าออกต่อวันเป็นจำนวนมาก เช่น สถานีรถไฟฟ้า, สนามบิน หรืออาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ควรเลือก Flap Barrier เพราะสามารถเปิด-ปิดได้อย่างรวดเร็ว รองรับการเดินผ่านได้จำนวนมาก และมีเซ็นเซอร์ป้องกันการเดินตามบุคคลอื่น (Anti-Tailgating)
  2. ระดับความปลอดภัยที่ต้องการ
    หากสถานที่ต้องการมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม, ไซต์งานก่อสร้าง หรือสนามกีฬา ควรเลือก Full Height Turnstile เพราะมีความแข็งแรงและป้องกันการปีนข้ามได้ดีกว่าเครื่องกั้นประเภทอื่น
  3. พื้นที่ติดตั้ง
    สำหรับสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัด เช่น อาคารสำนักงานหรือคอนโดมิเนียม ควรเลือก Swing Barrier เนื่องจากใช้พื้นที่น้อยกว่าประเภทอื่น และสามารถรองรับผู้ที่ใช้รถเข็นหรือรถจักรยานได้ดีกว่า
  4. งบประมาณ
    หากต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย เครื่องกั้นทางเดินประเภท Tripod Turnstile เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะมีราคาประหยัดเมื่อเทียบกับ Flap Barrier และ Full Height Turnstile อีกทั้งยังมีความแข็งแรง ทนทาน และดูแลรักษาง่าย

การเลือกเครื่องกั้นทางเดินที่เหมาะสมควรคำนึงถึงปัจจัยทั้งหมดร่วมกัน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านความปลอดภัย, ความสะดวกในการใช้งาน และงบประมาณที่มีอยู่ได้อย่างสมดุล

สรุปการเปรียบเทียบเครื่องกั้นทางเดิน

เครื่อง Turnstile ไม่ใช่แค่เครื่องกั้นทางเดินทั่วไป แต่เป็นหนึ่งในโซลูชันสำคัญที่ช่วยเพิ่มทั้ง ความปลอดภัย, ความเป็นระเบียบ และ ภาพลักษณ์ขององค์กร การเลือกประเภทที่เหมาะสมจึงควรพิจารณาจากทั้งพื้นที่ใช้งานงบประมาณและกลุ่มผู้ใช้งานเป็นหลัก

หากคุณกำลังมองหาเครื่อง Turnstile ที่มีคุณภาพ และต้องการผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาในการออกแบบพร้อมให้บริการและติดตั้งครบวงจร เพื่อความปลอดภัยที่เหนือกว่าในองค์กรของคุณ

อ้างอิงแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม :
ZKTeco. (n.d.). ZKBio Zlink: Smart Cloud-Based IoT Management Platform. Retrieved from https://www.zkteco.com
Security Magazine. (2024). Types of Turnstile Gates and How to Choose the Right One. Retrieved from https://www.securitymagazine.co

Scroll to Top