
การควบคุมการเข้า-ออกของบุคคลเป็นสิ่งสำคัญในสถานที่ต่าง ๆ เช่น อาคารสำนักงาน โรงงาน โรงแรม สนามบิน โรงเรียน และหน่วยงานราชการ ซึ่งเครื่องกั้นทางเข้าออก (Turnstile Gate) ทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการตรวจสอบและอนุญาตให้บุคคลผ่านเข้าสู่พื้นที่ได้อย่างปลอดภัย
การใช้งานเครื่องกั้นทางเข้าออกนั้นมักจะทำงานร่วมกับระบบควบคุมการเข้าออก เพื่อช่วยให้สามารถตรวจสอบสิทธิ์ของบุคคลที่ต้องการเข้า-ออกได้อย่างแม่นยำ ระบบนี้ทำให้สามารถกำหนดสิทธิ์ให้พนักงาน บุคคลภายนอก หรือแขกที่ได้รับอนุญาตผ่านเข้าไปได้ ขณะเดียวกันก็สามารถป้องกันบุคคลที่ไม่มีสิทธิ์เข้าพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องกั้นทางเดิน (Turnstile Gate) คืออะไร?
เครื่องกั้นทางเข้าออก (Turnstile Gate) คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับควบคุมและตรวจสอบการเข้า-ออกของบุคคล โดยจะทำงานร่วมกับระบบควบคุมการเข้า-ออก ต่าง ๆ เช่น บัตร RFID, ลายนิ้วมือ, การสแกนใบหน้า หรือรหัส QR Code ซึ่งระบบเหล่านี้ช่วยให้สามารถบันทึกข้อมูลผู้ผ่านเข้าออกได้อย่างเป็นระบบ
คุณสมบัติของเครื่องกั้นทางเข้าออก
- ควบคุมการเข้า-ออกของบุคคลให้เป็นระเบียบ
- ป้องกันการเข้า-ออกของบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต
- รองรับการเชื่อมต่อกับระบบควบคุมการเข้าออก
- สามารถตั้งค่าให้ทำงานอัตโนมัติ หรือให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้ควบคุม
- บันทึกข้อมูลการเข้า-ออกของบุคคลเพื่อใช้ตรวจสอบย้อนหลัง
การทำงานร่วมกันของเครื่องกั้นทางเดินและระบบควบคุมการเข้า-ออก
เครื่องกั้นทางเข้าออกจะไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากไม่มีระบบควบคุมการเข้า-ออกมารองรับ โดยระบบนี้จะช่วยตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ที่ต้องการเข้าออกพื้นที่ และแจ้งผลลัพธ์ให้เครื่องกั้นทางเข้าออกเปิดหรือปิดประตูตามสิทธิ์ที่กำหนดไว้
กระบวนการทำงานมีดังนี้:
- ผู้ใช้งานทำการยืนยันตัวตน ผ่านบัตร RFID, ลายนิ้วมือ, การสแกนใบหน้า หรือ QR Code
- ระบบ Access Control ตรวจสอบสิทธิ์ ระบบจะเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลเพื่อยืนยันว่าบุคคลนั้นมีสิทธิ์ผ่านเข้าไปได้หรือไม่
- ส่งคำสั่งไปยังเครื่องกั้นทางเข้าออก หากระบบอนุญาต ประตูจะเปิดโดยอัตโนมัติ
- บันทึกข้อมูลการเข้า-ออก ระบบจะบันทึกข้อมูลเวลาเข้า-ออก เพื่อนำไปใช้ตรวจสอบย้อนหลัง

ประเภทของระบบควบคุมการเข้า-ออก ที่ใช้ร่วมกับเครื่องกั้นทางเข้าออก
ระบบควบคุมการเข้าออกเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารจัดการพื้นที่ที่ต้องการควบคุมสิทธิ์การเข้า-ออก โดยระบบเหล่านี้สามารถทำงานร่วมกับ เครื่องกั้นทางเข้าออก (Turnstile Gate) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้งาน ปัจจุบันมีระบบที่ได้รับความนิยมหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. ระบบควบคุมการเข้าออกด้วยบัตร RFID
เป็นระบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอาคารสำนักงาน หอพัก โรงงาน และสถานที่ต่าง ๆ ที่ต้องการการบริหารจัดการบุคคลเข้าออกอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้งานเพียงแค่แตะบัตร RFID บนเครื่องอ่าน ระบบจะทำการตรวจสอบข้อมูลและเปิดประตูให้บุคคลที่ได้รับอนุญาตผ่านเข้าไปได้
ข้อดี
- ใช้งานง่าย สะดวก และรวดเร็ว
- สามารถบันทึกข้อมูลการเข้า-ออกของผู้ใช้ได้
- เหมาะสำหรับอาคารสำนักงานและโรงงาน
2. ระบบควบคุมการเข้าออกด้วยลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
เป็นระบบที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากลายนิ้วมือของแต่ละบุคคลไม่สามารถปลอมแปลงได้ง่าย ทำให้สามารถป้องกันการเข้าออกโดยไม่ได้รับอนุญาตได้เป็นอย่างดี ระบบนี้เหมาะกับสำนักงาน โรงงาน หรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง
ข้อดี
- ความปลอดภัยสูง ไม่สามารถปลอมแปลงได้
- ไม่ต้องพกบัตร ลดปัญหาการลืมบัตร
3. ระบบควบคุมการเข้าออกด้วยการสแกนใบหน้า (Face Recognition)
เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากใช้การตรวจสอบลักษณะใบหน้าของแต่ละบุคคลที่ไม่สามารถปลอมแปลงได้ง่าย นอกจากนี้ยังช่วยลดการสัมผัสโดยตรงกับอุปกรณ์ เหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการมาตรการด้านสุขอนามัยที่เข้มงวด เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน และสนามบิน
ข้อดี
- ความปลอดภัยสูงมาก ไม่สามารถปลอมแปลงได้
- ลดการสัมผัส เพิ่มความสะอาดและสุขอนามัย
4. ระบบควบคุมการเข้าออกด้วย QR Code
เป็นระบบที่ใช้ QR Code เป็นรหัสผ่านเข้า-ออก เหมาะสำหรับผู้มาติดต่อ หรือระบบที่ต้องการความรวดเร็วและง่ายต่อการบริหารจัดการ เช่น พื้นที่จัดงานอีเวนต์ คอนเสิร์ต หรือลานจอดรถที่ต้องการใช้ตั๋วแบบดิจิทัล
ข้อดี
- สามารถส่ง QR Code ให้ผู้มาติดต่อผ่านมือถือ
- ไม่ต้องใช้บัตร ลดปัญหาการสูญหาย
5. ระบบควบคุมการเข้าออกด้วยเหรียญ (Coin System)
เป็นระบบที่นิยมใช้ในพื้นที่ที่ต้องการจำกัดการเข้าออกเฉพาะผู้ที่ชำระค่าบริการ เช่น ห้องน้ำสาธารณะ ลานจอดรถ หรือพื้นที่บริการอื่น ๆ ที่มีค่าธรรมเนียม ระบบนี้ทำงานโดยให้ผู้ใช้งานหยอดเหรียญลงในเครื่องอ่าน เมื่อตรวจสอบแล้วว่ามีจำนวนเงินครบตามที่กำหนด ประตูจะเปิดโดยอัตโนมัติ
ข้อดี
- ลดภาระเจ้าหน้าที่ในการเก็บค่าบริการ
- ใช้งานง่าย ไม่ต้องพกบัตรหรือใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน
6. ระบบควบคุมการเข้าออกด้วยบัตรประชาชน (ID Card Verification)
เป็นระบบที่ช่วยให้สามารถตรวจสอบตัวตนของบุคคลที่เข้าออกพื้นที่ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่อยู่ในบัตรประชาชน ระบบนี้มักใช้ในสถานที่ราชการ โรงแรม สนามบิน และสถานที่ที่ต้องการยืนยันตัวตนของบุคคลก่อนเข้าใช้บริการ
ข้อดี
- ตรวจสอบตัวตนได้แม่นยำ ป้องกันการสวมสิทธิ์
- ใช้ร่วมกับฐานข้อมูลภาครัฐได้ เช่น ตรวจสอบสถานะวีซ่าหรือประวัติอาชญากรรม

การใช้งานเครื่องกั้นทางเข้าออกร่วมกับการควบคุมการเข้าออกในสถานที่ต่าง ๆ
- อาคารสำนักงาน
- ใช้บัตร RFID หรือลายนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตนของพนักงาน
- สามารถบันทึกเวลาเข้า-ออกของพนักงานได้
- ป้องกันบุคคลภายนอกเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม
- โรงงานอุตสาหกรรม
- ใช้เครื่องกั้นร่วมกับระบบสแกนนิ้วมือหรือสแกนใบหน้า
- ควบคุมการเข้า-ออกของพนักงานและบุคคลภายนอก
- ลดความเสี่ยงจากบุคคลภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาต
- ห้างสรรพสินค้า และศูนย์ประชุม
- ใช้ระบบ QR Code หรือ RFID Card เพื่อให้ลูกค้าผ่านเข้าไปยังโซนพิเศษ
- เพิ่มความปลอดภัยและลดความแออัด
- สนามบินและสถานีขนส่ง
- ใช้เครื่องกั้นทางเข้าออกร่วมกับระบบสแกนบัตรโดยสาร
- ควบคุมการเข้าออกของผู้โดยสาร และลดปัญหาการผ่านเข้าออกโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข้อดีของการใช้เครื่องกั้นทางเข้าออกร่วมกับการควบคุมการเข้าออก
- เพิ่มความปลอดภัย ป้องกันบุคคลที่ไม่มีสิทธิ์เข้าออกพื้นที่
- ลดภาระของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทำงานอัตโนมัติ ลดต้นทุนบุคลากร
- ตรวจสอบการเข้าออกได้ง่าย สามารถบันทึกข้อมูลเพื่อตรวจสอบย้อนหลัง
- รองรับการเชื่อมต่อหลายระบบ ใช้งานร่วมกับบัตร RFID, ลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้า และ QR Code
สรุป
เครื่องกั้นทางเข้าออกที่เชื่อมต่อกับระบบควบคุมการเข้า-ออกเป็นโซลูชันที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและควบคุมการเข้า-ออกในสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน เช่น บัตร RFID, ลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้า และ QR Code ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมการเข้า-ออกได้อย่างแม่นยำ
อ้างอิงแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม :
ZKTeco. (n.d.).ZKBioAccess: The Ultimate Access Control System., from https://www.zkteco.com
Security Magazine. (2024).How Smart Access Control Enhances Security in Modern Buildings, from https://www.securitymagazine.com