
เราสามารถเห็นได้บ่อยว่าเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนของโรงพยาบาล ซึ่งเป็นสถานที่ที่ต้องการความสะอาด ปลอดภัย และสะดวกสบายสูงสุด ได้นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับการบริการและสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมและมีบทบาทสำคัญอย่างมากคือ ประตูอัตโนมัติ
ถ้าพูดถึงประตูอัตโนมัติไม่ใช่เป็นเพียงแค่ความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างมาตรฐานของโรงพยาบาลในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขอนามัย ความปลอดภัย การเข้าถึงอย่างเท่าเทียม และประสิทธิภาพในการดำเนินงาน บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงประโยชน์นานัปการของการใช้ประตูอัตโนมัติในโรงพยาบาล พร้อมทั้งข้อควรพิจารณาในการเลือกใช้ระบบประตูอัตโนมัติที่เหมาะสม

ประเภทของประตูอัตโนมัติในโรงพยาบาล
ประตูอัตโนมัติที่ใช้ในโรงพยาบาลมีหลากหลายประเภท โดยแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน
1. ประตูเลื่อนอัตโนมัติ (Automatic Sliding Door)
- เป็นประตูที่พบได้บ่อยที่สุดในโรงพยาบาล
- ใช้งานง่ายและสามารถเปิด-ปิดได้อัตโนมัติเมื่อตรวจจับเจอการเคลื่อนไหว
- ลดการสัมผัส ลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
- มักเห็นได้บ่อยในทางเข้า-ออกหลัก ห้องฉุกเฉิน และโถงทางเดิน
2. ประตูสวิงอัตโนมัติ (Automatic Swing Door)
- ใช้กลไกบานพับเพื่อเปิด-ปิดประตูอัตโนมัติ
- เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการควบคุมการเข้า-ออก เช่น ห้องปลอดเชื้อ ห้องผ่าตัด
- สามารถติดตั้งระบบ Access Control เพื่อควบคุมการเข้าออกของบุคลากร
3. ประตูกั้นห้องผ่าตัด (Hermetic Door หรือ Air-tight Door)
- เป็นประตูที่ออกแบบพิเศษเพื่อป้องกันการรั่วไหลของอากาศและเชื้อโรค
- ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดเชื้อ
- มักใช้ในห้องผ่าตัดและห้องปลอดเชื้อ
ประโยชน์ของประตูอัตโนมัติ
- ความสะดวกสบายเหนือระดับ: ประตูอัตโนมัติมอบความสะดวกสบายอย่างมากให้กับทุกคนที่เข้ามาในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วย ผู้มาเยี่ยม หรือบุคลากรทางการแพทย์ เพียงแค่เดินเข้าใกล้ หรือกดปุ่ม ประตูก็จะเปิดออกโดยอัตโนมัติ ทำให้การเข้า-ออกโรงพยาบาลเป็นเรื่องง่ายดาย ไม่ต้องเสียเวลา หรือออกแรงผลักหรือดึงประตูแบบเดิมๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่ร่างกายอ่อนแอ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือผู้ที่กำลังเข็นรถเข็นผู้ป่วย ประตูอัตโนมัติช่วยลดความยุ่งยากและเพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ภายในโรงพยาบาล
- ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย: ประตูอัตโนมัติมีส่วนช่วยในการเพิ่มความปลอดภัยภายในโรงพยาบาลอย่างมีนัยสำคัญ ระบบเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งมาพร้อมกับประตูสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวและสิ่งกีดขวางได้อย่างแม่นยำ ป้องกันการชนหรือการหนีบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ประตูอัตโนมัติยังสามารถติดตั้งระบบล็อคเพื่อควบคุมการเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ภายในโรงพยาบาล เช่น ห้องผ่าตัด ห้องยา หรือห้องเก็บเวชภัณฑ์ ป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม
- ส่งเสริมการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม: โรงพยาบาลมีหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ประตูอัตโนมัติเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญสำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว เนื่องจากประตูอัตโนมัติสามารถเปิดได้โดยไม่ต้องใช้แรง และไม่มีธรณีประตูหรือสิ่งกีดขวางที่พื้น ทำให้ผู้ที่ใช้รถเข็น หรืออุปกรณ์ช่วยเดิน สามารถเข้า-ออกโรงพยาบาลได้อย่างอิสระและปลอดภัย เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเข้าถึงสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง
- เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน: ในยุคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน ประตูอัตโนมัติมีบทบาทในการช่วยลดการใช้พลังงานของโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี ประตูอัตโนมัติมักถูกออกแบบมาให้มีระบบปิดอัตโนมัติเมื่อไม่มีผู้ใช้งาน ทำให้ลดการสูญเสียความเย็นหรือความร้อนภายในอาคาร ช่วยลดภาระการทำงานของระบบปรับอากาศ และประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในระยะยาว นอกจากนี้ วัสดุที่ใช้ในการผลิตประตูอัตโนมัติบางประเภทยังเป็นวัสดุประหยัดพลังงานอีกด้วย
- สุขอนามัยที่เหนือกว่า ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ: โรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่ต้องให้ความสำคัญกับสุขอนามัยและความสะอาดเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ประตูอัตโนมัติช่วยลดการสัมผัสโดยตรงกับประตู เนื่องจากประตูสามารถเปิด-ปิดได้เองโดยอัตโนมัติ ลดการสะสมของเชื้อโรคบนมือจับหรือลูกบิดประตู ซึ่งเป็นจุดสัมผัสร่วมที่อาจเป็นแหล่งสะสมและแพร่กระจายเชื้อโรคได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ เช่น ห้องผ่าตัด ห้องผู้ป่วยวิกฤต หรือห้องปฏิบัติการ การใช้ประตูอัตโนมัติจึงมีส่วนช่วยในการควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคภายในโรงพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน: ประตูอัตโนมัติช่วยให้การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย อุปกรณ์ทางการแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ภายในโรงพยาบาลเป็นไปอย่างคล่องตัวและรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือบริเวณที่มีการสัญจรหนาแน่น เช่น ห้องฉุกเฉิน หรือทางเดินหลัก ประตูอัตโนมัติช่วยลดความแออัด และอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ส่งผลให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ลดมลภาวะทางเสียง สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ: ในโรงพยาบาลที่ต้องการความเงียบสงบเพื่อการพักผ่อนและฟื้นตัวของผู้ป่วย ประตูอัตโนมัติมีส่วนช่วยในการลดมลภาวะทางเสียงได้ ประตูอัตโนมัติมักถูกออกแบบมาให้ทำงานเงียบ และไม่มีเสียงดังจากการกระแทกปิดประตูเหมือนประตูแบบเดิมๆ ทำให้บรรยากาศภายในโรงพยาบาลมีความสงบและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพจิตใจและร่างกายของผู้ป่วย

เทคโนโลยีและฟีเจอร์เด่นที่ใช้ในโรงพยาบาล:
- ระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ: หัวใจสำคัญของประตูอัตโนมัติคือระบบเซ็นเซอร์ที่ทำหน้าที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวและสั่งการให้ประตูเปิด-ปิด ในโรงพยาบาล มักนิยมใช้เซ็นเซอร์ที่มีความไวสูงและแม่นยำ เพื่อให้ประตูเปิดได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีผู้ใช้งานเข้าใกล้ และปิดได้อย่างนุ่มนวลเมื่อไม่มีผู้ใช้งาน เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบายสูงสุด
- Microcell (ตาแมว): เป็นเซ็นเซอร์เสริมที่มักติดตั้งเพิ่มเติมในประตูอัตโนมัติสำหรับโรงพยาบาล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น โดย Microcell จะทำหน้าที่ตรวจจับวัตถุที่อยู่บริเวณธรณีประตูในระดับต่ำ เช่น รถเข็น หรือขาของผู้ใช้งานที่อาจหยุดอยู่บริเวณประตู เพื่อป้องกันไม่ให้ประตูเลื่อนปิดกระแทก หรือหนีบผู้ใช้งานโดยไม่ได้ตั้งใจ
- ระบบ Access Control: ในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสูง โรงพยาบาลอาจติดตั้งระบบ Access Control ควบคู่กับประตูอัตโนมัติ ระบบนี้จะควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ โดยอนุญาตเฉพาะผู้ที่มีสิทธิ์เท่านั้นที่สามารถผ่านประตูเข้าไปได้ เช่น การใช้คีย์การ์ด สแกนลายนิ้วมือ หรือระบบจดจำใบหน้า เพื่อป้องกันผู้บุกรุก และรักษาความปลอดภัยของพื้นที่
หลักในการลือกระบบประตูอัตโนมัติสำหรับโรงพยาบาล:
- ขนาดและน้ำหนักของประตู: ต้องเลือกขนาดและน้ำหนักของประตูอัตโนมัติให้เหมาะสมกับขนาดช่องเปิด และโครงสร้างของอาคารโรงพยาบาล
- ปริมาณการสัญจร: พิจารณาปริมาณผู้ใช้งานประตูในแต่ละพื้นที่ หากเป็นพื้นที่ที่มีการสัญจรหนาแน่น เช่น ล็อบบี้ หรือห้องฉุกเฉิน ควรเลือกระบบประตูอัตโนมัติที่มีความทนทานและรองรับการใช้งานหนักได้ดี
- สภาพแวดล้อม: คำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่จะติดตั้งประตู เช่น หากเป็นห้องผ่าตัด หรือห้องคลีนรูม ควรเลือกระบบประตูอัตโนมัติที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับสภาพแวดล้อมที่ต้องการความสะอาดและปลอดเชื้อ
- ฟังก์ชันเพิ่มเติม: พิจารณาฟังก์ชันเพิ่มเติมที่ต้องการ เช่น ระบบสำรองไฟในกรณีไฟฟ้าดับ ระบบป้องกันการหนีบ ระบบควบคุมจากระยะไกล หรือระบบเชื่อมต่อกับระบบบริหารจัดการอาคาร
สรุป
ประตูอัตโนมัติเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์สำหรับโรงพยาบาล ไม่ใช่แค่ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย แต่ยังยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัย สุขอนามัย การเข้าถึง และประสิทธิภาพการดำเนินงานของโรงพยาบาลได้อย่างครอบคลุม การเลือกใช้ระบบประตูอัตโนมัติที่เหมาะสมกับความต้องการและลักษณะของโรงพยาบาล จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและยังส่งผลดีต่อทั้งผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ และภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลโดยรวม หากคุณกำลังพิจารณาติดตั้งประตูอัตโนมัติในโรงพยาบาลของคุณ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และมีความรู้ความสามารถ จะช่วยให้คุณเลือกระบบประตูอัตโนมัติที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างลงตัวและมีประสิทธิภาพสูงสุด
อ้างอิงแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม :
Dorma Kaba. (n.d.).Automatic Sliding & Swing Doors for Hospitals,from https://www.dormakaba.com