autodoorservice.com

กล้อง LPR กับฟีเจอร์ในการตรวจจับป้ายทะเบียนรถยนต์

กล้อง LPR ตรวจจับป้ายทะเบียนรถยนต์

การทำงานของกล้อง LPR สำหรับตรวจจับป้ายทะเบียน

เทคโนโลยี LPR (License Plate Recognition) หรือ การจดจำป้ายทะเบียนอัตโนมัติ ได้กลายเป็นโซลูชันสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยให้กับระบบควบคุมทางเข้า-ออกของยานพาหนะ ระบบนี้ถูกนำไปใช้ในหลากหลายสถานที่ เช่น ลานจอดรถ อาคารสำนักงาน โรงงาน และหน่วยงานภาครัฐ โดยกล้อง LPR สามารถตรวจจับป้ายทะเบียนรถยนต์ได้อัตโนมัติ พร้อมทั้งจดจำข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น สีของรถ ยี่ห้อรถ และประเภทของรถ ช่วยให้สามารถควบคุมการเข้าถึงได้อย่างแม่นยำและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

การทำงานระบบLPR

การทำงานของระบบ LPR

ระบบ LPR อาศัย Computer Vision และ AI (Artificial Intelligence) เพื่อจดจำหมายเลขทะเบียนและข้อมูลอื่น ๆ ของรถยนต์ กระบวนการทำงานของกล้อง LPR มีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้

1. การจับภาพป้ายทะเบียน (License Plate Detection)

เมื่อรถเข้ามาในระยะตรวจจับของกล้อง LPR ระบบจะทำการตรวจจับตำแหน่งของป้ายทะเบียนและบันทึกภาพโดยอัตโนมัติ เทคโนโลยีที่ใช้ช่วยให้สามารถจับภาพป้ายทะเบียนได้อย่างชัดเจน แม้ในสภาพแสงน้อยหรือในเวลากลางคืน

เทคโนโลยีที่ใช้:

  • Infrared (IR) และ LED Light – ช่วยเพิ่มความคมชัดของป้ายทะเบียนในที่มืด
  • High-speed Image Capture – รองรับรถที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง

ปัจจัยที่มีผลต่อความแม่นยำ:

  • ตำแหน่งของกล้อง ควรติดตั้งให้อยู่ในระดับที่สามารถเห็นป้ายทะเบียนได้ชัด
  • คุณภาพของป้ายทะเบียน หากป้ายทะเบียนซีดจางหรือมีคราบสกปรก อาจทำให้การจดจำผิดพลาด

2. การประมวลผลภาพและจดจำหมายเลขทะเบียน (Image Processing & Optical Character Recognition – OCR)

หลังจากจับภาพป้ายทะเบียนได้แล้ว ระบบ OCR (Optical Character Recognition) จะเข้ามามีบทบาทในการแปลงตัวอักษรและตัวเลขจากภาพให้กลายเป็นข้อมูลดิจิทัลที่สามารถอ่านได้

กระบวนการ OCR ประกอบด้วย:

  • การปรับแต่งภาพ (Preprocessing) – ลบรอยรบกวน ปรับความคมชัดของตัวอักษร
  • การแยกตัวอักษร (Segmentation) – แยกตัวอักษรและตัวเลขออกจากกัน
  • การจดจำตัวอักษร (Character Recognition) – วิเคราะห์ลักษณะของอักขระเพื่อจดจำหมายเลขทะเบียน

ระบบสามารถจดจำป้ายทะเบียนจากหลากหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งช่วยให้สามารถใช้งานในระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การตรวจสอบฐานข้อมูล (Database Verification & Authentication)

เมื่อระบบได้ข้อมูลหมายเลขทะเบียนแล้ว ระบบจะนำข้อมูลไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลที่มีอยู่

ประเภทของฐานข้อมูล:

  • Whitelist (รายการอนุญาต) – รถที่ได้รับอนุญาตสามารถผ่านเข้า-ออกได้
  • Blacklist (รายการต้องห้าม) – ระบบจะป้องกันไม่ให้รถที่ไม่พึงประสงค์เข้า
  • Visitor List (รายชื่อผู้มาเยือน) – ใช้สำหรับบันทึกข้อมูลของรถที่เข้ามาเป็นครั้งคราว

หากหมายเลขทะเบียนตรงกับฐานข้อมูล Whitelist ไม้กั้นอัตโนมัติจะเปิดออกทันที หากไม่ตรง ระบบสามารถแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติม

4. การอนุญาตหรือปฏิเสธการเข้าถึง (Access Control Decision)

หลังจากตรวจสอบฐานข้อมูล ระบบจะทำการตัดสินใจว่ารถคันดังกล่าวควรได้รับอนุญาตให้ผ่านหรือไม่

  • กรณีได้รับอนุญาต: ไม้กั้นจะเปิดออกโดยอัตโนมัติ
  • กรณีไม่ได้รับอนุญาต: ระบบจะปิดกั้นการเข้า-ออก และแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
เทคโนโลยีที่ใช้กับระบบLPR

เทคโนโลยีที่ใช้ในระบบ LPR

1. การจดจำสีของรถยนต์ (Vehicle Color Recognition)

ระบบ LPR ไม่ได้มีความสามารถเพียงแค่การจดจำป้ายทะเบียนเท่านั้น แต่ยังสามารถตรวจจับสีของรถยนต์ได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถแยกแยะสีได้มากถึง 16 สี เช่น สีขาว สีดำ สีแดง สีฟ้า สีเทา สีเขียว สีเหลือง สีส้ม สีชมพู สีม่วง สีน้ำตาล สีทอง สีเงิน และสีตาล เป็นต้น ความสามารถนี้ช่วยให้การติดตามยานพาหนะเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดความผิดพลาดจากการจดจำป้ายทะเบียนเพียงอย่างเดียว

  • ใช้ Computer Vision และ Deep Learning เพื่อจดจำสีของรถ
  • ป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลของรถยนต์

2. การจดจำยี่ห้อของรถยนต์ (Vehicle Make)

เทคโนโลยี LPR สามารถจดจำยี่ห้อของรถยนต์ได้มากกว่า 124 แบรนด์ชั้นนำทั่วโลก เช่น Audi, BMW, Ford, Honda, Toyota, Nissan, Mercedes-Benz, Volvo, Hyundai และอื่น ๆ อีกมากมาย ฟังก์ชันนี้ช่วยให้สามารถระบุข้อมูลของยานพาหนะได้อย่างละเอียด ไม่เพียงแต่ใช้ในระบบควบคุมทางเข้า-ออก แต่ยังเป็นประโยชน์ในงานด้านความปลอดภัย เช่น การตรวจจับรถต้องสงสัยหรือการบันทึกข้อมูลยานพาหนะที่เข้า-ออกสถานที่

  • ลดความเสี่ยงจากการใช้ป้ายทะเบียนปลอม
  • เพิ่มความปลอดภัยในการควบคุมยานพาหนะ

3. การจดจำประเภทของรถยนต์ ( Model Recognition)

ระบบ LPR สามารถระบุประเภทของรถยนต์ได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง (Sedan), รถอเนกประสงค์ (SUV), รถกระบะ (Pickup Truck) หรือรถบรรทุก (Truck) เป็นต้น ฟังก์ชันนี้ช่วยให้สามารถควบคุมการเข้า-ออกของรถยนต์ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับประเภทของยานพาหนะที่สามารถเข้าใช้พื้นที่ เช่น โรงจอดรถในห้างสรรพสินค้า สนามบิน หรือคลังสินค้า

4. ระบบการทำงานแบบเรียลไทม์ (Real-time Processing)

  • สามารถตรวจจับป้ายทะเบียนและประมวลผลข้อมูลได้ภายในไม่กี่วินาที
  • รองรับการใช้งานในสถานการณ์ที่ต้องการความรวดเร็ว

5. รองรับโหมดออฟไลน์ (Offline Mode)

  • หากระบบเครือข่ายล่ม กล้อง LPR ยังคงสามารถบันทึกข้อมูลและอนุญาตให้รถที่มีสิทธิ์ผ่านเข้า-ออกได้
  • ข้อมูลที่บันทึกไว้จะถูกซิงค์กับระบบอัตโนมัติเมื่อกลับมาออนไลน์

การนำระบบ LPR ไปใช้งานจริง

  • ลานจอดรถของอาคารสำนักงาน – ควบคุมการเข้า-ออกของพนักงาน
  • โรงงานอุตสาหกรรม – ป้องกันรถที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปในพื้นที่
  • มหาวิทยาลัยและโรงเรียน – ควบคุมการเข้า-ออกของนักศึกษาและบุคลากร
  • โชว์รูมรถยนต์ – ใช้บันทึกข้อมูลรถของลูกค้า

ประโยชน์ของระบบ LPR

  • เพิ่มความปลอดภัย – ป้องกันการใช้ป้ายทะเบียนปลอม
  • ลดเวลาการตรวจสอบ – ลดภาระของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
  • รองรับการทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ – เช่น RFID, CCTV, ไม้กั้นอัตโนมัติ
  • สามารถทำงานในเวลากลางคืนได้ดี – ด้วยเทคโนโลยี IR Sensor

สรุป

ระบบ LPR เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การตรวจจับและจดจำป้ายทะเบียนรถยนต์เป็นไปโดยอัตโนมัติ มีความแม่นยำสูง รองรับการทำงานแบบ Real-time และ Offline สามารถนำไปใช้ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ ระบบนี้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการควบคุมทางเข้า-ออกของยานพาหนะอย่างมีประสิทธิภาพ

อ้างอิงแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม :
ZKTeco. (n.d.).ZKTeco’s LPR technology enhances vehicle access control with AI-driven license plate recognition, from https://www.zkteco.com

Scroll to Top